ความเป็นมา : บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท ลานนาลิกไนต์ จำกัด (มหาชน) ทะเบียนเลขที่ 0107535000397 (เดิมเลขที่ บมจ. 72) ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2528 และได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2535 โดยได้รับอนุญาตเป็นบริษัทจดทะเบียนให้นำหุ้นสามัญเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2537 โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)
เหตุการณ์สำคัญ
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท ลานนาลิกไนต์ จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดโดยใช้ชื่อว่า บริษัท ลานนาลิกไนต์ จำกัด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2528 เพื่อเข้าทำสัญญาเช่าช่วงการทำเหมืองถ่านลิกไนต์บ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2528 มีกำหนดเวลา 20 ปี จนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2548 และได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท ลานนาลิกไนต์ จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2535 โดยได้รับอนุญาตให้นำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2537 ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มทรัพยากร (หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค) ต่อมาได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปร่วมลงทุนและจัดตั้งบริษัท UNITED BULK SHIPPING PTE. LTD. แห่งประเทศสิงคโปร์ในปี 2539 โดยถือหุ้นสามัญร้อยละ 49 ของทุนที่เรียกชำระแล้วเพื่อประกอบธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเล
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน)ได้จัดตั้งบริษัท LANNA (SINGAPORE) PTE. LTD.แห่งประเทศสิงคโปร์ในปี 2540 โดยถือหุ้นสามัญร้อยละ 100 ของทุนที่เรียกชำระแล้วเพื่อประกอบธุรกิจด้านการลงทุนในกิจการเหมืองถ่านหิน และสาธารณูปโภคในต่างประเทศ (HOLDING COMPANY) และได้จดทะเบียนเลิกบริษัทและชำระบัญชีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2555 เพื่อปรับโครงสร้างการลงทุนในบริษัทย่อยให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
● LANNA (SINGAPORE) PTE LTD ได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นสามัญใน PT. LANNA HARITA INDONESIA แห่งประเทศอินโดนีเซียในปี 2541 คิดเป็นร้อยละ 55 ของทุนที่เรียกชำระแล้วเพื่อลงทุนทำเหมืองถ่านหินแหล่งที่ 1 ในประเทศอินโดนีเซีย โดยได้เริ่มผลิตถ่านหินออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา และต่อมาในปี 2550 ได้โอนขายหุ้นสามัญทั้งหมดใน PT. LANNA HARITA INDONESIA ให้บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เข้าไปถือหุ้นโดยตรง
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (“LANNA”) ได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (“ไทยอะโกร”) คิดเป็นร้อยละ 75 ของทุนที่เรียกชำระแล้วในปี 2546 และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็นร้อยละ 75.75 ของทุนที่ชำระแล้ว ในปี 2548 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล (แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5%) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์โดยทั่วไป และเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2557 ไทยอะโกร ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตและจำหน่ายเอทานอล LANNA ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นจากร้อยละ 75.75 เหลือร้อยละ 51 ของทุนที่ชำระแล้ว โดยไทยอะโกรได้เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมา
● LANNA (SINGAPORE) PTE.LTD. ได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นสามัญใน PT. SINGLURUS PRATAMA ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเหมืองถ่านหินแหล่งที่ 3 ในประเทศอินโดนีเซียในปี 2551 คิดเป็นร้อยละ 65 ของทุนที่ชำระแล้วและต่อมาในปี 2552 ก็ได้โอนขายหุ้นสามัญทั้งหมดใน PT. SINGLURUS PRATAMA ให้บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เข้าไปถือหุ้นโดยตรง
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ลานนาพาวเวอร์เจ็นเนอร์เรชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2559 เพื่อประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศเป็นธุรกิจหลักโดย LANNA ถือหุ้นสามัญร้อยละ 99.99985 ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (“LANNA”) ได้ให้ PT. LANNA HARITA INDONESIA (“LHI”) และPT. SINGLURUS PRATAMA (“SGP”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซีย ลงนามในสัญญาการแก้ไขสัมปทานเหมืองถ่านหินกับกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่แห่งประเทศอินโดนีเซีย (Ministry of Energy and Mineral Resources หรือ “MEMR”) เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่สัญชาติอินโดนีเซียจากเดิมร้อยละ 65 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วให้เหลือไม่เกินร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ทั้งนี้เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งประเทศอินโดนีเซีย (Mining Law No. 4/2009) ทั้งนี้หลังจาก LANNA ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน LHI และ SGP แล้ว LANNA ยังมีอำนาจควบคุมการบริหารงานของ LHI และ SGP ซึ่งสามารถจะนำงบการเงิน LHI และ SGP มาทำงบการเงินรวมได้เช่นเดิม ในปี 2562 บริษัทย่อยดังกล่าวได้ประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัท และนำเสนอขายต่อหน่วยงานของภาครัฐอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการถือหุ้นที่หน่วยงานของภาครัฐอินโดนีเซียกำหนดไว้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนในเรื่องการลดสัดส่วน
● บริษัท ลานนาพาวเวอร์เจ็นเนอร์เรชั่น จำกัด (“LPG”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (“LANNA”) เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 ได้เข้าลงทุนซื้อสามัญและหุ้นบุริมสิทธิบริษัท เอสอาร์ที เพาเวอร์ เพลเลท จำกัด (“SRT”) เพื่อลงทุนในโครงการผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งของ SRT คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.9998 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขนาดกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง 60,000 เมตริกตันต่อปี
● คณะกรรมการบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบให้จดทะเบียนเลิกบริษัทและชำระบัญชี PT. LANNA POWER INDONESIA (“LPI”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จดทะเบียนในประเทศอินโดนีเซียที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.975 ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว โดย LPI ไม่มีการประกอบธุรกิจแล้ว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ
● บริษัท ลานนาพาวเวอร์เจ็นเนอร์เรชั่น จำกัด (“LPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ LANNA เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท เอสอาร์ที เพาเวอร์ เพลเลท จำกัด (“SRT”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ LPG ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (“COVID-19”) ทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบและต้องหยุดการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งชั่วคราว โดยให้ SRT กู้เงินจาก LPG จำนวน 70,820,758.18 บาท เพื่อนำเงินที่กู้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมให้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
● บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ได้เข้าไปลงทุนในโครงการสัมปทานเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซียของ PT. PESONA KHATULISTIWA NUSANTARA (“PKN”) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ PKN โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 5 ล้านดอลล่าห์สหรัฐอเมริกา โดย PKN ได้รับสัมปทานเหมืองถ่านหินรุ่นที่ 3 (3rd Generation Coal Contract of Work) จากรัฐบาลแห่งประเทศอินโดนีเซียมีกำหนด 30 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ถึง 2582 ตั้งอยู่ที่เมืองบูลุงงัน (Bulungan Regency) จังหวัดกาลิมันตันเหนือ (North Kalimantan) ประเทศอินโดนีเซีย
● คณะกรรมการบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้างบริษัทการลงทุนในบริษัท เอสอาร์ที เพาเวอร์ เพลเลท จำกัด (“SRT”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท ลานนาพาวเวอร์เจ็นเนอร์เรชั่น จำกัด (“LPG”) ร้อยละ 99.99965 ของทุนที่ชำระแล้ว เพื่อให้การบริหารจัดการมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้ SRT โอนกิจการให้แก่ LPG และให้ SRT จดทะเบียนเลิกบริษัทและชำระบัญชี หลังจาก SRT โอนกิจการให้แก่ LPG เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
● เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ SRT มีมติอนุมัติให้มีการเลิกบริษัท ในวันเดียวกันได้จดทะเบียนเลิกกิจการแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการชำระบัญชี